แม่น้ำโขง ณ ริมตลิ่งเมืองหนองคาย |
บันทึกทางประวัติศาสตร์ในหลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ก็กล่าวถึงอาณาเขตด้านทิศเหนือ ติดกับเมือง ลุมบาจาย สระคา ท้าวฝั่งของ" ท้าวฝั่งของ หมายถึงท้าวพระยาที่ปกครองในลุ่มแม่น้ำโขง
แสดงว่าชื่อนี้อย่างน้อยก็เรียกมาแล้วมากกว่าเจ็ดร้อยปี
แต่บันทึกทางประวัติศาสตร์เมื่อห้าร้อยปีก่อนก็เรียกน้ำของเหมือนกัน และมีชื่ออย่างเป็นทางการด้วย
ชื่อแบบภาษาชาวบ้านเรียก แม่น้ำของ แม่น้ำของตั้งแต่หนองแส ประเทศจีนเรื่อยจนถึงเมืองศรีโคตม์บูร เรียกว่า ทะนะนะทีเทวา หรือ ธนะนทีเทวา (แม่น้ำมีเทวดาด้วย มีสมบัติด้วย หรือ แม่น้ำอันมีทรัพย์มากและมีเทวดารักษา) ปรากฏในหน้า 5 ของตำนานอุรังคธาตุ ฉบับอาจารย์อุดร จันทวัน แต่อาจารย์บอกว่า ต้นฉบับเขียนว่า ทะนะมะณีเทวา ผู้เขียนเห็นว่า ต้นฉบับก็อาจจะเขียนถูกต้องแล้ว เพราะเราเมื่อเราพูดถึงแม่น้ำ ในหลายแห่งเราก็ขี้เกียจเขียนคำว่าแม่น้ำอีก เขียนเฉพาะคำคุณศัทพ์ของแม่น้ำ
ธะนะมะณีเทวา (แม่น้ำ) มีเทวดาด้วย(รักษา) มีแก้วมะณีด้วย และมีสมบัติ(ทรัพย์)ด้วย เพราะสมัยโบราณเมืองโบราณเมื่อห้าร้อยปีก่อน มรีเหมืองแก้ว และเหมืองทองด้วย อย่างเมืองนครพนมในอดีตก็มีเหมืองทองคำอยู่ริมตลิ่งน้ำของ หลายจุดเหมือนกัน
จะเรียก ธนะนทีเทวา จะเรียก ธนะมณีเทวา ก็ตามใจเถิด แต่ให้รู้ว่า ชื่ออย่างเป็นทางการของแม่น้ำโขงเมื่อห้าร้อยปีก่อน เรียกชื่อที่กล่าวมา
แม่น้ำโขงหรือน้ำของ ตั้งแต่เมืองศรีโคตม์บูรลงไปจนถึงประเทศกำพูชา เรียกว่า "แม่น้ำหลี่ผี" ตามอุรังคนิทานหน้า 6 ดังข้อความนี้ " ทะนะมุนละนาค ผู้อาศัยอยู่เมืองศรีโคตบอง ก็ควัดฮ่องจากนั้นลงไป ฮอดเมืองอินทะปัตถะนคร จนฮอดแม่น้ำสมุทร ฮ่องนี้เอิ้นว่า น้ำหลี่ผี นั้นแล"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น